เมนู

บทว่า อญฺโญ ได้แก่ วรรณะแห่งสรีระ. บทว่า ธมฺมา ได้แก่
โลกุตรธรรม 9.
จบอรรถกถาอิฏฐสูตรที่ 3

4. วัฑฒิสูตร


ว่าด้วยความเจริญ 10 ประการ


[74] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกเมื่อเจริญด้วยความเจริย
10 ประการ ย่อมเจริญด้วยความเจริญอันประเสริฐ และเป็นผู้ถือเอาสิ่ง
ที่เป็นสาระ สิ่งที่ประเสริฐแห่งกาย ความเจริญ 10 ประการเป็นไฉน
คือ อริยสาวกย่อมเจริญด้วยนาและสวน 1 ย่อมเจริญด้วยทรัพย์และข้าว
เปลือก 1 ย่อมเจริญด้วยบุตรและภรรยา 1 ย่อมเจริญด้วยทาส กรรมกร
และคนใช้ ย่อมเจริญด้วยสัตว์ 4 เท้า 1 ย่อมเจริญด้วยศรัทธา 1 ย่อม
เจริญด้วยศีล 1 ย่อมเจริญด้วยสุตะ 1 ย่อมเจริญด้วยจาคะ 1 ย่อมเจริญ
ด้วยปัญญา 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวก็เมื่อเจริญด้วยความเจริญ
10 ประการนี้ ย่อมเจริญด้วยความเจริญอันประเสริฐ และเป็นผู้ถือเอา
สิ่งที่เป็นสาระ สิ่งที่ประเสริฐแห่งกาย.
บุคคลใดในโลกนี้ ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ ข้าว
เปลือก บุตร ภรรยา และสัตว์ 4 เท้า บุคคลนั้น
ย่อมเป็นผู้มีโชค มียศ เป็นผู้อันญาติมิตร แลพระ-
ราชาบูชาแล้ว บุคคลใดในโลกนี้ ย่อมเจริญด้วยศรัทธา
ศีล สุตะ จาคะและปัญญา บุคคลเช่นนั้น เป็นสัปบุรุษ
ปัญญาเครื่องพิจารณา ย่อมเจริญด้วยความเจริญ
ทั้งสองประการในปัจจุบัน.

จบวัฑฒิสูตรที่ 4

อรรถกถาวัฑฒิสูตรที่ 4


วัฑฒิสูตรที่ 4

พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อริยาย ได้แก่ มิใช่ของปุถุชน. คำนี้ตรัสไว้ ก็เพราะคละ
กับด้วยธรรมทั้งหลายมีศีลเป็นต้น. บทว่า สาราทายี จ โหติ วราทายี
ความว่า ย่อมเป็นผู้ยึดไว้ได้ซึ่งสาระและส่วนประเสริฐ. อธิบายว่า ย่อม
ยึดไว้ซึ่งสาระของกาย และส่วนประเสริฐของกายนั้น.
จบอรรถกถาวัฑฒิสูตรที่ 4

5. มิคสาลาสูตร


ว่าด้วยไม่ให้ถือประมาณให้บุคคลว่าเสื่อมหรือเจริญ
แต่ให้ถือประมาณธรรม


[75] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหาร
เชตวัน อารามของท่1นอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้ง
นั้นแล เวลาเช้า ท่านพระอานนท์นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปยัง
ที่อยู่ของมิคสาลาอุบาสิกา แล้วนั่งบนอาสนะที่เขาปูลาดถวาย ครั้งนั้น
มิคสาลาอุบาสิกาเข้าไปหาท่านพระอานนท์ กราบไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามท่านพระอานนท์ว่า ข้าแต่ท่านพระอานนท์
ธรรมนี้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้ว อันเป็นเหตุให้คนสองคน คือ
คนหนึ่งประพฤติพรหมจรรย์ คนหนึ่งไม่ประพฤติพรหมจรรย์ จักเป็นคน
มีคติเสมอกันในสัมปรายภพ อันวิญญูชนจะพึงรู้ทั่วถึงได้อย่างไร คือบิดา
ของดิฉันชื่อปุราณะ เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกล งด
เว้นจากเมถุนอันเป็นธรรมของชาวบ้าน ท่านกระทำกาละแล้ว พระผู้มี-